จุดเชื่อมต่อระหว่าง เมืองบาดาล กับ โลกมนุษย์
สถานที่ที่ถูกกล่าวขานว่าคือจุดเชื่อมต่อระหว่าง เมืองบาดาล กับ โลกมนุษย์ แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนแวะไปอย่างไม่ขาดสาย
พญานาค ความเชื่อที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน เล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน และมีความสัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาของเรา ความลึกลับซับซ้อนที่หลายคนยังคงต้องค้นหาคำตอบกันต่อไปว่า สิ่งที่เราพบเห็นกับตำนานที่เราได้ฟังมานั้นมีความจริงมากน้อยเพียงใด วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนรอยสถานที่ที่เขาว่ากันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับเมืองบาดาลกันค่ะ
1.ถ้ำดินเพียง จ.หนองคาย
สำหรับผู้ที่มีความเชื่อ และศรัทธาเกี่ยวกับพญานาค ต่างต้องเคยได้ยินเรื่องราวอันลึกลับของถ้ำแห่งนี้แน่นอน ตามตำนานร่ำลือกันว่าสถานที่แห่งนี้คือประตูมิติระหว่างโลกมนุษย์กับเมืองบาดาล เป็นที่ประทับของ ปู่ศรีสุทโธ ย่าศรีปทุมมา และปู่อินทร์นาคราช ซึ่งเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ เหตุที่ชื่อว่าถ้ำดินเพียงสืบเนื่องมาจากถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำใต้ดิน และปากทางเข้าจะอยู่เสมอกับดินในระดับปกติ ทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นเพียงหลุมธรรมดาๆ เท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านเรียกว่า “ถ้ำพญานาค” ก็เพราะว่าภายในถ้ำแห่งนี้มีโพรง ซึ่งมีลักษณะคล้ายรูอยู่มากมาย มีซอกซอยแบ่งแยกออกไปทั่วสารทิศ แต่ละรูสามารถเชื่อมทะลุถึงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ขนาดรูใหญ่กว่าตัวคนเพียงเล็กน้อย เหมือนกับเส้นทางการเลื้อยของงูขนาดใหญ่ มากกว่าเป็นทางสัญจรของมนุษย์ แถมโพรงเหล่านี้ยังมีน้ำไหลเอื่อยไปตามทางเหมือนกับว่าให้งูสามารถเลื้อยไปมาได้สะดวก และเมื่อนำมาพิจารณาประกอบกับเรื่องเล่าต่างๆ แล้ว จึงทำให้เชื่อได้ว่า ถ้ำแห่งนี้ต้องเป็นที่อยู่ และที่สัญจรของพญานาคอย่างแน่นอน
2.แก่งอาฮง จ.บึงกาฬ
แก่งหินกลางน้ำโขง ตั้งอยู่ บ้านอาฮง ต.หอคำ จ.บึงกาฬ เชื่อกันว่าที่นี่คือสะดือแม่น้ำโขง ถือว่าเป็นจุดที่แม่น้ำโขงมีความลึกที่สุด มีเรื่องเล่าว่าใต้สะดือแม่น้ำโขงแห่งนี้มีถ้ำขนาดใหญ่ เปรียบดั่งเมืองหลวง และสถานที่อยู่ของราชาพญานาคนามว่า “โอฆินทร” เป็นจุดศูนย์กลางการปกครองนาคพิภพ โดยถ้ำแห่งนี้สามารถใช้สัญจรไปยังฝั่งลาวได้ ซึ่งจะทะลุไปที่ภูงู ส่วนทางออกอีกด้านคือเมืองคำชะโนด หนึ่งในสามทางออกที่พญานาคนามว่า “ศรีสุทโธนาคราช” ได้ขอพระอินทร์ไว้ จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ กลางป่าคำชะโนด จึงไม่เคยเหือดแห้ง เพราะบ่อน้ำแห่งนี้เชื่อมต่อกับสะดือแม่น้ำโขง หรือเมืองหลวงพญานาคนั่นเอง
ตามตำนานกล่าวว่า ราชาพญานาคโอฆินทร มีบุตรนามว่า มธุรนาคราช เมื่อเจริญวัยเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นได้ติดตามบิดาขึ้นไปบนพื้นดิน และทั้งคู่ได้แลเห็นเหตุการณ์วันเทโวโรหนะ ขณะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปิดโลก ครั้งนั้น ทั้งพญานาคและมนุษย์ เมื่อได้ยลพุทธลักษณะต่างก็บังเกิดความศรัทธา เคารพเลื่อมใสเป็นอย่างมาก จึงตั้งใจบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยสติปัญญาและอนุภาพของตน ด้วยฤทธานุภาพของพญานาค ทำให้สามารถกลั่นดวงประทีปหรือบั้งไฟเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จึงได้เกิดเป็นบั้งไฟพญานาคขึ้น ณ สะดือแม่น้ำโขงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
3.ป่าคำชะโนด จ.อุดรธานี
“ป่าคำชะโนด” หรือ วัดป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ดินแดนของป่าศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะเป็นเกาะลอยน้ำ คนในพื้นที่เชื่อว่าเป็นดินแดนของพญานาคนาม “ศรีสุทโธ” คอยปกปักรักษาที่แห่งนี้อยู่ เกาะลอยน้ำแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 20 กว่าไร่ มี “ต้นชะโนด” ขึ้นเต็มไปหมด เมื่อเข้าไปที่คำชะโนด อากาศจะเย็นสบายเหมือนติดแอร์ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน น้ำจะท่วมบริเวณรอบเกาะทุกปี แต่สิ่งมหัศจรรย์ที่ทำให้หลายคนตกตะลึงคือ น้ำจะไม่ท่วมป่าคำชะโนด จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเกาะนี้จะลอยขึ้นตามระดับน้ำขึ้น-น้ำลง สร้างความน่าประหลาดใจให้แก่ผู้มาท่องเที่ยวเป็นอย่าง นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านที่นี่เรียกว่า “ปล่องพญานาค” เป็นบ่อน้ำที่น้ำไม่เคยเหือดแห้ง มีคนเคยนำไม้ไผ่ลำยาว 3 ต้น มาต่อกัน แล้วหยั่งลงไป ปรากฏว่าไม่ถึงพื้นเลย แต่แปลกตรงที่เมื่อโยนเหรียญลงไปจะมองเห็นเหรียญได้หมด ชาวบ้านเชื่อกันว่าบ่อน้ำแห่งนี้คือจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และเมืองบาดาล
อีกหนึ่งเรื่องเล่าที่ถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์คือ “ผีจ้างหนัง” (คนอีสานเรียก ผีบังบด หรือเมืองลับแล ไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป นอกเสียจากว่าจะมีอะไรดลใจให้เห็น) สุดแสนมหัศจรรย์พันลึกที่เกิดขึ้น เมื่อนายธงชัย แสงไชย เจ้าของกิจการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ บริษัทหนังเร่ชื่อก้องแห่งภาคอีสาน ถูกว่าจ้างจากใครคนหนึ่งให้ไปฉายหนังกลางแปลงในหมู่บ้านวังทอง ด้วยจำนวนเงิน 4,000 บาท แต่มีข้อแม้คือ ต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่ และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง โดยห้ามหันหลังกลับมามอง
“หนังจะเริ่มฉายตั้งแต่หัวค่ำ แต่ตอนนั้นไม่มีผู้คนมาดู พอ 3 ทุ่ม ก็มีคนมาดูจำนวนเยอะมาก แต่ที่แปลกก็คือ ผู้หญิงจะนุ่งขาวห่มขาวนั่งอยู่ด้านหน้า ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำนั่งอีกข้าง และทั้งหมดก็นั่งกันสงบเรียบร้อยเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหวตัวเลย ยิ่งกว่านั้นไม่ว่าจะฉายหนังอะไร ก็ไม่มีการส่งเสียงเอะอะเหมือนหนังกลางแปลงทั่วไป ฉายหนังบู๊ก็เฉย ฉายหนังตลกก็เงียบ แต่ที่น่าแปลกคือ ในงานไม่มีร้านขายของกินของใช้ แม้แต่ร้านขายบุหรี่ก็ไม่มี” ธงชัยกล่าว
ดินแดนลี้ลับแห่งเมืองบาดาลพญานาคกับโลกมนุษย์นี้ยังคงเป็นปริศนา ไร้การพิสูจน์ว่ามีความจริงเท็จเพียงใด หรืออาจเป็นกุศโลบายของทางพระพุทธศาสนา ที่ทำให้เราช่วยกันทำนุบำรุงศาสนาให้ยังคงอยู่สืบต่อไป รวมถึงเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เช่นเดียวกับเรื่องเล่าตำนานต่างๆ ของพญานาค ที่มีความผูกพันธุ์กับศาสนาพุธของเรานั่นเอง อย่างไรก็ดีโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะคะ
เรียบเรียงโดย เรด้าห์
เป็นเรด้าห์ที่คอยติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวชอบเสาะแสวงหา สถานที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ปัญหาสำคัญนั่นก็คือ !! ถึงจะเป็นนักเขียน เรื่องเที่ยวก็ทำให้น้ำหนักไม่ค่อยจะลดลงซะที