เมนูแซ่บซี๊ด
สาระน่ารู้ : อาหารอีสานแซ่บนัวที่ใครไปร้านเป็นต้องสั่ง
ขึ้นชื่อว่า อาหารอีสาน เราเชื่อว่าน่าจะเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลายคนเลยค่ะ เพราะเสน่ห์ของอาหารอีสานนั้นอยู่ที่รสชาติที่ครบรสจริงๆ มีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด ที่ไม่ว่ากินกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ ยิ่งเมื่อไปที่ร้านครั้งใด ก็เป็นอันต้องสั่งเมนูสุดเด็ดเหล่านี้กันอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ลาบ น้ำตก ซุปหน่อไม้ และอีกหลากหลายเมนู แหมแค่คิดก็อยากแซ่บซะแล้ว วันนี้พาไปกิน ได้เตรียมสูตร และวิธีทำแบบง่ายๆ มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ เตรียมปากกากระดาษไว้ให้พร้อม แล้วมาจดสูตรกันเลยค่ะ
1. คอหมูย่าง
เราขอเสนออาหารรายการแรกด้วย เมนูเรียกน้ำย่อยอย่างคอหมูย่างเอาไว้สำหรับกินเล่นกันก่อนดีกว่า เชื่อเถอะค่ะว่าหากได้กินคอหมูย่างร้อนๆ หอมๆ กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด บอกได้คำเดียวว่าฟินลืม แถมคอหมูย่างเพียง 1จาน ก็ไม่ได้ทำให้สาวๆ อ้วนขึ้นหรอกนะจ๊ะ เพราะให้พลังงานประมาณ 200 กิโลแคลอรี่เท่านั้น รอช้าอยู่ไย ไปทำกินกันเลยดีกว่า
วัตถุดิบ
• เนื้อสันคอหมู 200 กรัม
• ซอสหอยนางรม 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยขาว 1/4 ช้อนชา
• น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
• น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวคั่วป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• ต้มหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ก่อนอื่นให้เริ่มจากผสมซอสสำหรับหมักเนื้อสันคอหมู นำซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม และพริกไทยขาว มาผสมจนเข้ากันเตรียมไว้
2.จากนั้นให้ใช้ส้อมจิ้มสันคอหมูให้ทั่ว แล้วนำมาหมักกับส่วนผสมด้านบน แล้วพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
3. ขั้นตอนต่อมาหลังจากหมักหมูเสร็จแล้ว ให้เพื่อนๆ ตั้งกระทะวอร์มรอจนร้อน แล้วให้เอาคอหมูลงไปจี่ จนสุกทั้งสองด้าน แล้วหั่นเป็นชิ้นจัดใส่จาน
4. มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ การทำน้ำจิ้มรสเด็ดไว้กินคู่กับคอหมูย่าง ขั้นแรก ให้ผสมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียกให้เข้ากัน เมื่อทั้งหมดละลายเข้ากันดีแล้วให้ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น และหอมแดงลงไปผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วตักใส่ถ้วยโรยด้วยหอมซอยเสิร์ฟคู่กับคอหมูย่างเป็นอันกินได้
2. ต้มแซ่บกระดูกหมู
เมนูต่อมาต้องเป็นอะไรแซ่บๆ ซดคล้องคอกันสักหน่อยค่ะ อย่างเมนูต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนนี่ล่ะ แหมบอกเลยค่ะ ว่าหากได้ลองกินกระดูกอ่อนกรุบๆ พร้อมซดน้ำแซ่บๆ สักคนละคำสองคำ เป็นอันจะต้องกระตุกต่อมความอยากอาหารได้ดีเลยทีเดียวเลยล่ะ ว่าแล้วก็มาลงมีทำกันเลยดีกว่า
วัตถุดิบ
• น้ำ 1 ถ้วยใหญ่
• ข่าแก่หั่นแว่น 5 ชิ้น
• ตะไคร้หั่นเฉียง 1 ต้น
• ใบมะกรูด ฉีกก้านกลาง 3 ใบ
• กระดูกหมูอ่อนหั่นเป็นชิ้น 200 กรัม
• เห็ดฟางผ่าครึ่ง 100 กรัม
• มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง 50 กรัม
• หอมแดงซอยบาง 1 หัว
• น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น ปริมาณตามความชอบ
• ใบโหระพา 10 ใบ
• ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำน้ำใส่ลงในหม้อ แล้วเอาไปตั้งไฟจนเดือด ใส่เครื่องต้มยำพวกสมุนไพรต่างๆ อย่าง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป แล้วต้มจนส่งกลิ่นหอม
2.เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งให้เทกระดูกหมูอ่อนลงใส่ลงไปในหม้อต้มจนสุก ใส่มะเขือเทศ หอมแดงซอย กับเห็ดฟางลงไป จากนั้นทำการปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก คนผสมจนเข้ากันดีแล้วปิดไฟ จากนั้นตักต้มใส่ชามบีบน้ำมะนาว ใส่พริกป่นเพิ่มความเผ็ดร้อนสักหน่อยตามด้วยผักชีฝรั่ง ตบท้ายด้วยการเพิ่มความหอมด้วยใบโหระพาโรยหน้าสักหน่อย แซ่บโลดดด
3. ซุปหน่อไม้
เมนูซุปหน่อไม้ รายการอาหารลำดับที่สามเป็นอาหารอีสานอีกหนึ่งเมนู ช่วยเพิ่มรสชาติที่เราอยากแนะนำค่ะ รับรองว่าแซ่บนัวไม่แพ้ส้มตำอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าอาหารชนิดนี้จะออกไปทางลาบ แถมยังเหมาะกับสาวๆ ที่กำลังลดความอ้วนด้วยนะคะ เพราะเมนูนี้เป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำมากๆ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันค่ะ ว่าต้องเตรียมอะไรบ้างในการทำเมนูนี้
วัตถุดิบ
• ใบย่านาง 5-10 ใบ
• หน่อไม้รวก ขูดเป็นเส้นยาว
• น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• หอมแดงซอย 3 หัว
• น้ำมะนาว ½ ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา ½ ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น ตามชอบ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีฝรั่งซอย
• ต้นหอมซอย
วิธีทำ
1.การที่จะทำซุปหน่อไม้ให้อร่อยนั้น เราต้องเริ่มจากทำการขยี้ใบย่านางกับน้ำจนเป็นสีเขียวเข้ม แล้วกรองกากออกเอาไว้แต่ส่วนน้ำ จากนั้นนำน้ำที่ได้มาเทใส่หม้อเตรียมไว้
2.ขั้นตอนต่อมาให้นำน้ำใบย่านางที่ได้มาต้มจนเดือด จากนั้นใส่หน่อไม้ ตามด้วยเกลือป่น และน้ำปลาร้าลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง จากนั้นปิดไฟยกลงจากเตา แล้วเตรียมปรุงรส
3. ขั้นตอนในปรุงรสให้ตักหน่อไม้ใส่อ่างผสม ใส่หอมแดงซอย จากนั้นใส่น้ำมะนาว น้ำปลา พริกป่น และข้าวคั่ว คลุกให้ทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วใส่ผักชีฝรั่งซอย ต้นหอมซอย ผสมพอให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
4. ลาบหมู
ตามกันมาติดๆ ด้วยเมนูลาบหมูเลยดีกว่าค่ะอย่าให้ขาดตอน เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งเมนุที่ไม่ว่าใครจะไปร้านส้มตำจะไม่สั่งก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ แหมกลิ่นข้าวคั่วหอมๆ คลุกผสมอยู่ในเนื้อหมูสับหยาบๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ แค่นั่งมองบวกดมกลิ่นท้องก็ร้องแล้ว เราอย่ามัวนั่งจินตนาการดีกว่ามาลงมือทำกันเลย
วัตถุดิบ
• เนื้อหมูสับ 200 กรัม
• หอมแดงซอย 1 หัว
• ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
• ใบสะระแหน่ สำหรับโรยหน้า
• น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว สำหรับปรุงรส
• พริกป่น ปริมาณตามชอบ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ก่อนอื่นให้เทน้ำใส่หม้อสักเล็กน้อยพอลวกให้หมูสุก จากนั้นนำไปตั้งไฟพอน้ำเดือดใส่เนื้อหมูสับลงไปรวนจนสุก เสร็จแล้วให้ยกลงจากเตา
2. ขั้นตอนต่อมาคือการปรุงรส ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ข้าวคั่ว และพริกป่นคลุกให้เข้ากัน จากนั้นให้ใส่หอมแดง ต้นหอมซอย และใบสะระแหน่ลงในหม้อ แล้วเคล้าให้เข้ากันอีกครั้งทำการตักใส่จาน โรยใบสะระแหน่สักหน่อย เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ
5. ตับหวาน
มาถึงเมนูสุดท้ายกันแล้วค่ะ จานนี้น่าจะเป็นเมนูที่กินได้แบบกึ่งสุกกึ่งดิบสำหรับคนที่ชอบสายนี้นะคะแต่ทางเราขอแนะนำว่าให้ทำแบบสุกสัก 90% จะดีที่สุด สำหรับเมนูตับหวานนี้หากลวกสุกเกินไปก็จะไม่อร่อยนะคะ เพราะว่าตับจะแข็งทำให้เคี้ยวยากนั่นเอง
วัตถุดิบ
• ตับหมู หั่นเป็นชิ้นบาง 200 กรัม
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• พริกป่น ตามชอบ
• ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• ใบสะระแหน่
วิธีทำ
1. มาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ โดยเริ่มจากการลวกตับหมูในน้ำเดือด สำหรับการลวกนะคะให้กะเอาได้ตามใจชอบเลย หลังจากนั้นให้ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. เมื่อได้ตับลวกแล้วก็มาทำการปรุงรสกันค่ะ ใส่ตับลวกลงในอ่างผสม ตามด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น และผักชีฝรั่งซอย เคล้าทั้งหมดให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จาน วางใบสะระแหน่โรยหน้า พร้อมเสิร์ฟ
เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ยเห็นวิธีทำของแต่ละเมนูแล้วเด็ดๆ ทั้งนั้นเลย หลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะมีเมนูโดนใจกันอยู่บ้างจนอยากจะทำตามแล้วใช่ไหมคะ แต่ก่อนจะลงมือทำเรามีเรื่องหนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆ ระวังกันสักหน่อยค่ะ เรื่องสุขภาพกันไว้สักนิดจะดีกว่า ว่าการทำ อาหารอีสาน ในบางเมนูนั้นหากใครที่ชอบแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ ทางที่ดีปรุงสุกจะดีที่สุดนะคะ เพื่อสุขภาพท้องที่ดีของตัวท่านเอง^^