เกร็ดความรู้เรื่องอาหาร

ความลับ ของ ขนม

ความลับของขนมที่หลายร้านไม่ยอมบอกคุณ

อยากรู้เหลือเกินว่าร้าน ขนม ต่างๆ ที่มีคนมุงซื้อกันเยอะแยะมากมาย เขามีสูตรเด็ดเคล็ดลับอะไรกัน นามปากกา เรด้าห์ เป็นเรด้าห์ที่คอยติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวชอบเสาะแสวงหา สถานที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ปัญหาสำคัญนั่นก็คือ !! ถึงจะเป็นนักเขียน เรื่องเที่ยวก็ทำให้น้ำหนักไม่ค่อยจะลดลงซะที!!

เกร็ดความรู้ : มาดู 5 สุดยอดสมุนไพรที่ช่วยลดน้ำตาลในเลือดกันเถอะ

โรคเบาหวานเกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกินไป ซึ่งกลุ่มคนที่สามารถเป็นโรคนี้ได้มักเกิดกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย หรือผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง รวมถึงเกิดจากพันธุกรรม หากคุณป่วยเป็นโรคเบาหวานจะต้องทำการรักษา ดูแลตัวเอง โดยปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด และเลือกกินมากยิ่งขึ้น คุณอาจจะใช้สมุนไพรมาเป็นตัวช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยก็ได้ ซึ่ง สมุนไพร ที่เรารวบรวมมาให้ล้วนเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ง่าย จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

1.กะเพรา

เป็นสมุนไพรหาง่ายในครัวเรือน นอกจากประโยชน์จะสามารถนำไปประกอบอาหารได้แล้ว ยังนำกะเพรามาใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวาน แก้ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้หอบหืดและแก้ไอ รวมถึงโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด โรคข้ออักเสบ ผู้ป่วยในโรคระบบทางเดินหายใจ และยังช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยต้านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (ฮีสตามิน) ต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านอาการอักเสบ แก้ปวด ลดไข้ ช่วยลดคอเรสเตอรอล และที่สุดท้ายช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ โดยกินผงใบกะเพราวันละ 2.5 กรัม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ วิธีใช้ให้นำผงใบกะเพรา ประมาณ 1 ช้อนชาต่อน้ำร้อน 1 ถ้วย ดื่มวันละ 3 ครั้ง ก็จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยใหม่ หรือผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้นค่ะ

ข้อควรระวัง : ไม่แนะนำให้ใช้ในสตรีตั้งครรภ์ และสตรีหลังคลอดที่กำลังให้นมบุตร

2.ว่านหางจระเข้

เป็นสมุนไพรที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ เนื่องด้วยสรรพคุณของมันที่ช่วยรักษาบาดแผล รักษาผิวหนังที่ถูกแสงแดดเผาไหม้ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียนนุ่มชุ่มชื้น และแก้ปัญหาผิวด่างดำได้ ปัจจุบันจากการศึกษาวิจัยพบว่าว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งผ่านการทดลองจากสัตว์และคน โดยการเนื้อว่านหางจระเข้วันละ 15 กรัมติดต่อกันทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก็จะเห็นผลว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

3.ชะพลู

เป็นผักพื้นบ้านที่นิยมทานแบบสดๆ คู่กับเมี่ยงคำ โดยสรรพคุณของชะพลูจะช่วยบำรุงธาตุ ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยในการขับเสมหะ อีกทั้งในตำรับยาพื้นบ้านไทยพบว่า สามารถนำเอาชะพลูมาต้มดื่มเพื่อแก้โรคเบาหวานได้ จากการทดลองกับกระต่ายพบว่า ชะพลูช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี และกระต่ายยังมีร่างกายที่แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าใบชะพลูยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง มีแคลเซียม วิตามินเอและซีสูงมาก จึงเหมาะมากที่จะนำมาประกอบอาหารหรือนำมาต้มดื่มเป็นชา ให้ทั้งคนทั่วไป และผู้ป่วยโรคเบาหวานำได้รับประทาน โดยวิธีการให้ใช้นำใบชะพลู ปริมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำเปล่า 3 ขัน แล้วเคี่ยวให้เหลือเพียง 1 ขัน จากนั้นนำมาดื่มครั้งละ 1/2 แก้วกาแฟ ก่อนอาหาร 3 มื้อ ก็จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี

4.ตำลึง

ผักพื้นบ้านที่หากินได้ง่าย มีคุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินเอและซีสูงมาก มีวิตามินบี 2 เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณ มีธาตุเหล็ก บำรุงเลือด มีเส้นใยอาหารสูง และตำลึงนำมากินได้ทั้งใบ ราก และผล อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจากตำรับยาอายุรเวท วิธีการโดยนำยอดตำลึง 1 กำมือ โรยเกลือหรือเหยาะกับน้ำปลา ห่อด้วยใบตองแล้วนำไปเผาไฟจนสุก แล้วกินติดต่อกันนานเป็นเวลา 3 เดือน จะเห็นผลว่าโรคเบาหวานมีอาการดีขึ้น

5.มะระขี้นก

เป็นสมุนไพรที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นจีน พม่า อินเดีย แอฟริกาอเมริกาใต้ รวมถึงประเทศไทย จากผลการวิจัยพบว่ายอดอ่อน และผลมีวิตามินเอและซีค่อนข้างสูง ใช้ลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยกินแบบลวกจิ้มกับน้ำพริก หรือจะนำมาคั้นน้ำ ชงดื่มแบบชาก็ได้ค่ะ การออกฤทธิ์จะออกฤทธิ์คล้ายกับอินซูลิน ช่วยลดน้ำตาลในเลือดก็คือ p-Insulin, Charantin และ Visine สำหรับวิธีการคั้นน้ำมะระ นำผลประมาณ 8-10 ผล ผ่าเอาเมล็ดด้านในออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมน้ำใส่ลงไปในเครื่องปั่นประมาณ 100 มล. แนะนำให้ดื่มวันละ 3 เวลา หากอยากดื่มเป็นชา ให้นำมะระขี้นกผลเล็กไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำมาบดให้เป็นผงชงผสมกับน้ำเดือด ดื่มแบบแทนน้ำชาครั้งละ 2 ถ้วย วันละ 3 เวลา หรือจะดื่มแทนน้ำก็ได้ ภายใน 1 เดือนจะเห็นผลว่าระดับน้ำตาลในเดือดลดลง

ข้อควรระวัง : สตรีมีครรภ์ เด็กและคนที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำไม่ควรรับประทาน

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานการดูแลตัวเอง คือ สิ่งสำคัญ ถึงแม้โรคนี้จะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถลดความรุนแรงด้วยการเลือกกินอาหาร ซึ่งการกินสมุนไพร เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะหากินง่าย มีราคาไม่แพง รวมถึงควรออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย จะช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นไปอีกค่ะ