สูตรเมนูเด็ด
รวมสูตรขนมจีน ทำอะไรก็อร่อย
สาระน่ารู้ : อาหารหลัก 5 หมู่ที่ถูกลืม
เราทุกคนถูกสอนว่าการรับประทานอาหารที่ถูกต้อง คือการรับประทานให้ครบทั้ง 5 หมู่ เราท่องต่อๆกันมาว่าอาหาร 5 หมู่นั้นคือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต เกลือแร่ วิตามิน ไขมัน แต่พอนานไปก็ไม่ได้ใส่ใจว่าอาหารแต่ละหมู่คืออะไรและมีข้อดีอย่างไร แล้วคุณรู้รึเปล่าว่าเพราะอะไรเราถึงไม่ควรขาดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่งไป วันนี้เราจะพาคุณย้อนเวลาหาอดีตถึงสมัยประถมกันดีกว่าค่ะว่าอาหารหลัก 5 หมู่จริงๆแล้วคืออะไร
หมู่ที่ 1 โปรตีน ได้มาจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ถือว่าเป็นธาตุอาหารที่สำคัญที่สุดในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ โปรตีนเป็นส่วนประกอบของร่างกายที่มีปริมาณมากเป็นอันดับสองรองจากน้ำ โดยเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของเซลสิ่งมีชีวิต เช่น เอนไซม์ (enzyme) ฮอร์โมน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานและการดำรงชีวิต ทั้งยังสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการเสริมสร้างเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอ เจ้าเอนไซม์นี้มีความสำคัญยิ่งต่อระบบย่อยอาหาร เนื่องจากอาหารที่เราทานเข้าไปต้องใช้เอนไซม์หลายชนิด รวมถึงสารคัดหลั่งจากกระเพาะอาหาร ตับอ่อน และลำไส้เล็ก เพื่อช่วยแปรเปลี่ยนอาหารให้มีหน่วยเล็กลงและสามารถดูดซึมได้ง่าย หากร่างกายได้รับโปรตีนคุณภาพซึ่งเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะช่วยให้อาหารต่างๆ ถูกย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้มั้ยคะว่าคอลลาเจนที่จำเป็นต่อสาวๆอย่างเราก็เกิดจากการโปรตีนนี่แหละค่ะ โปรตีนมีหน้าที่สร้างใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังในร่างกายให้ผิวมีความยืดหยุ่น ประสานแต่ละเซลล์ให้ยืดติดกันเป็นเนื้อเดียว ทั้งช่วยปกป้องริ้วรอยก่อนวัยได้ และยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเซลล์ผมและเล็บของเราอีกด้วย เมนูอาหาร ในระยะหลังจึงมีการเน้นโปรตีนให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแรงให้โปรตีนคอยช่วยซ่อมแซมร่างกาย
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ได้มาจากข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน คาร์โบไฮเดรตคือสารประกอบอินทรีย์ เป็นสารอาหารที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของมนุษย์ จึงสังเกตุได้ว่าเมนูอาหารทุกประเทศทั่วโลกก็มักจะมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก หากไม่มีคาร์โบไฮเดรตโปรตีนก็จะทำงานไม่เต็มที่เพราะมันจะช่วยสงวนโปรตีนให้ร่างกายนำไปใช้ในทางที่เป็นประโยชน์มากที่สุด แม้คนจะรังเกียจธาตุอาหารหมู่นี้เพราะหากมีคาร์โบไฮเดรตเหลือใช้ในร่างกายมันจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย แต่หากไร้ซึ่งคาร์โบไฮเดรตแล้วหล่ะก็ใครหล่ะคะจะเป็นหัวเรือใหญ่ในการเผาผลาญไขมันร่างกาย ไนจะเรื่องการทำงานของสมองอีก เพราะฉะนั้น คาร์โบไฮเดรตไม่ได้แย่เสมอไป หากเราบริโภคในสัดส่วนที่กำลังพอดีต่อพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละวัน
หมู่ที่ 3 เกลือแร่ ได้จากผักใบเขียวและผักชนิดอื่นๆ เกลือแร่เป็นสารอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้เพราะแร่ธาตุหลายชนิดเป็นส่วนประกอบของอวัยวะและกล้ามเนื้อ เช่น กระดูก ฟัน เลือด บางชนิดเป็นส่วนของสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตในร่างกาย เช่นฮอร์โมน เฮโมโกลบินเอนไซม์ เป็นต้น นอกจากนี้แร่ธาตุยังช่วยในการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำหน้าที่ปกติ เช่น ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด และช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย
หมู่ที่ 4 วิตามิน มาจากผลไม้ทุกชนิด แม้จะเป็นสารอาหารที่ร่างกายของเราต้องการในปริมาณน้อย แต่ก็ไม่สามารถขาดได้ ถ้าขาดไปจะทำให้ระบบร่างกายของเราผิดปกติ หรือเกิดโรคต่างๆได้ วิตามินแบ่งออกเป็น 2 พวก ได้แก่วิตามินที่ละลายตัวได้ในน้ำ ได้แก่ วิตามินซี และวิตามินบีรวม กับวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน เอ ดี อี เค วิตามินเหมือนเป็นยาอายุวัฒนะที่ช่วยบำรุงสุขภาพของผิวหนังให้สดชื่น ดูแลสุขภาพปาก เหงือก และฟัน ช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายเป็นปกติ หากขาดวิตามินร่างกายเราก็จะไม่มีแรงต่อสู้เชื้อโรคและโรคภัยต่างๆได้ ที่สำคัญที่สุด การรับประทานผลไม้ก็ช่วยเพิ่มกากใยที่ส่งผลดีโดยตรงต่อลำไส้ให้ขับถ่ายได้ตามปกติ
หมู่ที่ 5 ไขมัน ได้มาจากน้ำมัน และไขมัน จากพืชและสัตว์ สามารถแบ่งกลุ่มไขมัน ได้เป็น 2 ประเภท หนึ่งคือไขมันดี ซึ่งอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นซึ่งจัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัว ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้เองได้นั้นมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงใช้ในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี ได้แก่ โอเมก้า 3 น้ำมันปลา ผัก ถั่วและเมล็ดธัญพืช สองคือไขมันร้าย ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว (ที่พบมากในเนื้อ เนย นมสดและเนยแข็ง) และไขมันทรานส์ (ที่พบมากในอาหารจำพวก มาการีน ขนมบรรจุและขนมอบ) โดยไขมันร้ายทั้งสองชนิดนี้จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและนำมาสู่โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เป็นต้น แต่หากร่างกายไม่มีไขมันให้พลังงานแก่ร่างกายแล้วหล่ะก็ เมื่อเราไปที่ๆอากาศเย็น ร่างกายที่ไขมันน้อยก็จะหนาวสะท้าน แต่หากมีไขมันสะสมไว้ใต้ผิวหนังส่วนต่างๆร่างกายก็จะอบอุ่น อีกอย่าง ไขมันมีหน้าที่ช่วยดูดซึมวิตามินบางชนิดที่สามารถละลายในไขมันได้เท่านั้น ทุก เมนูอาหาร ที่เรารับประทานเข้าไปมักจะมีไขมันปะปนอยู่ไม่มากก็น้อย หากเรารู้ว่าอะไรคือไขมันดี อะไรคือไขมันเลวก็ควรเลือกรับประทานได้ง่ายขึ้นนะคะ
เห็นมั้ยคะว่าธาตูอาหารแต่ละหมู่ล้วนมีความสำคัญต่อเราทั้งสิ้น อย่าได้ดูดายหรือโกรธเคืองมันเลยค่ะ เมื่อตอนนี้รู้แล้วว่าอาหารแต่ละหมู่คืออะไร ทีนี้ลองสังเกตเมนูอาหารที่เรารับประทานอยู่ทุกวันนะคะ ว่าเราบริโภคแต่ละหมู่เพียงพอหรือเปล่า เพราะหากขาดซึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งร่างกายก็จะไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ เพียงแต่เราต้องเดินทางสายกลาง อย่าบริโภคอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินความจำเป็นเท่านั้นพอค่ะ