แนะนำอาหารรักษาไข้หวัด กินง่ายหายเร็วเป็นปลิดทิ้ง
เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงร่างกายก็อ่อนแอตามไปด้วย ซึ่งทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ มีเสมหะ เป็นต้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีอาหารที่สามารถบรรเทา ไข้หวัด ได้ โดยที่คุณไม่ต้องไปหาหมอ
เจ็บคอ ไอ ไข้หวัด อาการเจ็บป่วยที่พบบ่อยในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง คนที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงก็มักจะเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะ “ไข้หวัด” ที่นับว่าเป็นโรคยอดฮิต แต่ถ้าคุณไม่อยากเป็นหวัด หรืออยากให้อาการหวัดที่เป็นอยู่หายเร็วๆ โดยไม่ต้องพึ่งยาล่ะก็ วันนี้ Parpaikin มีอาหารที่ช่วยรักษาไข้หวัดมาฝากค่ะ
1. อาหารรสเผ็ด
อาหารที่ช่วยให้จมูกโล่ง หายคัดจมูก ก็คืออาหารรสเผ็ดร้อนนั่นเอง ซึ่งมีพริกเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า พริกแห้ง รวมไปถึงพริกไทย และสมุนไพรรสเผ็ดร้อนอื่นๆ เราสามารถกินเผ็ดอย่างเอร็ดอร่อยได้ในอาหารหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนูในต้มยำ พริกชี้ฟ้าในผัดเผ็ด พริกไทยในแกงเลียง พริกแห้งในลาบ หรืออาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพรรสเผ็ดร้อน เช่น กะเพรา โหระพา เป็นต้น
2. ขิง
ขิงมีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ มีฤทธิ์ช่วยแก้อากาศหวัดเมื่อรู้สึกหนาว มีไข้ต่ำ ไม่ค่อยมีเหงื่อออก มีเสมหะเหลวใส และยังช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด และข้ออักเสบได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย ช่วงฝนพรำ สภาพอากาศเปลี่ยนและชื้นแบบนี้ เมื่อเริ่มรู้สึกเปื่อยๆ เฉื่อยชา หนาว มีน้ำมูกใส หรือเริ่มมีเสมหะ ก็อย่าได้ชะล่าใจไปนะคะ รีบต้มน้ำขิงดื่มเลย หรือทานอาหารที่มีส่วนประกอบของขิงก็จะช่วยบรรเทาอาการหวัดได้แล้วล่ะค่ะ
3. หอมแดง
สรรพคุณจากหอมแดงจะช่วยป้องกันหวัด และบรรเทาอาการคัดจมูกได้ โดยนำหอมแดง 1 หัวเล็กมาปอกเปลือก แล้วกินพร้อมกับอาหารเป็นประจำทุกวัน แต่หากพบว่ายังไม่หายดีก็ให้ใช้หอมแดงเล็กจำนวนประมาณ 4-5 หัวมาทุบพอแตก นำไปต้มกับน้ำสะอาด 1 ลิตร ให้เดือด แล้วเทน้ำใส่ชามใบใหญ่ ก้มหน้าลงไปให้ห่างจากชามแค่พอประมาณ คลุมศีรษะด้วยผ้าขนหนู แล้วสูดไอระเหยจากน้ำหอมแดงประมาณ 5-10 นาที วิธีนี้จะทำให้คุณรู้สึกโล่งจมูกมากขึ้นค่ะ
4. กระเทียม
กระเทียมเป็นสมุนไพรกลิ่นฉุนที่หลายคนเมินหน้าหนี แต่รู้ไหมคะว่าเป็นสมุนไพรแก้คัดจมูกชั้นดีเลยทีเดียว เพียงนำกระเทียมมาใช้ประกอบอาหารตามเมนูทั่วไป ก็จะช่วยลดอาการคัดจมูกได้ หรืออาจจะกินสดๆ ครั้งละ 7 กลีบ พร้อมอาหารเป็นประจำทุกวันจนอาการดีขึ้นก็ได้ค่ะ อย่างไรก็ตามไม่ควรกินกระเทียมตอนท้องว่างโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้
5. ฟักทอง
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามิน A, C และ E รวมทั้งแคลเซียม สังกะสี โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส จึงเป็นอาหารที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงมากพอจะต่อสู้กับเชื้อหวัดที่ก่อให้เกิดน้ำมูก และเสมหะได้อีกทาง นอกจากนี้ยังแนะนำให้กินเมล็ดฟักทองเพื่อกำจัดน้ำมูกด้วย เนื่องจากในเมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบของร่างกาย อีกทั้งเมล็ดฟักทองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นอีกมากมาย ที่พร้อมจะต่อสู้กับอาการอักเสบต่างๆ ค่ะ
6. แครอท
อาหารที่มีวิตามินเอสูง นอกจากจะช่วยปกป้องดวงตาของเราแล้ว ยังช่วยรักษาโรคหวัดได้อีกด้วย เพราะอาหารที่มีวิตามินเอจะช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยต่อสู้กับเชื้อหวัดทำให้หายป่วยได้เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นรีบหาแครอท ผักโขม ผักใบเขียว มาทานโดยด่วนเลยนะคะ
7. ซุบไก่
อากาศเย็นๆ แบบนี้อาหารยอดนิยมคงหนี้ไม่พ้น ซุปไก่ร้อนๆ ที่ช่วยต้านหวัดได้เป็นอย่างดี เพราะมีงานวิจัยจาก University of Nebraska พบว่า ซุปไก่มีฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า นิวโทรฟิล (Neutrophil) ไปยังเนื้อเยื่อปอด ทำให้ลดกระบวนการอักเสบในปอด และลดอาการไอได้ โดยตำรับซุปไก่ที่ใช้ศึกษาประกอบด้วย ไก่ มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง ก้านขึ้นฉ่าย ผักชี แครอท หัวผักกาด เกลือ และพริกไทย และซุปไก่ที่ว่านี้ยังรวมถึง ต้มยำไก่ แกงไก่ ซึ่งมีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบในการปรุงรวมอยู่หลายชนิด สามารถบรรเทาอาการหวัดได้เช่นกันค่ะ
สำหรับการเลือกทานอาหารเพื่อช่วยรักษาอาการป่วยต่างๆ เป็นตัวช่วยหนึ่งในการบรรเทาอาการให้ทุเลาลงเท่านั้น แต่ถ้าไม่อยากป่วยก็ควรดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอนะคะ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ แค่นี้ก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดีกว่าการรักษาภายหลังแล้วล่ะค่ะ
เรียบเรียงโดย : อันดามัน
เป็นผู้ที่หลงรักทะเลสีครามของอันดามัน มีความหลงใหลในการท่องเที่ยว และมักเกิดอารมณ์สุนทรีชอบเขียนบทความต่างๆ จากประสบการณ์เที่ยวแต่ละครั้ง และยังมีความชื่นชอบเสาะหาร้านอร่อยมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะ