เสาวรส สรรพคุณและประโยชน์ที่คุณไม่ควรพลาด

หน้าตาประหลาดๆ สีสันก็แซ่บได้ใจ แถมยังมีกลิ่นเฉพาะตัวอีกต่างหาก คนส่วนมากนิยมนำมาคั้นทาน ประโยชน์ของเสาวรส มีนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะใครที่อยากลดไขมันในเลือด บำรุงสายตา และ
ผิวพรรณ ไม่ควรพลาดเสาวรสด้วยประการทั้งปวง

เห็นหน้าตาประหลาดๆ สีสันก็แปลกตา แถมยังมีกลิ่นเฉพาะตัวไปอี๊ก หลายคนจึงเกิดข้อสงสัยที่ว่าเจ้าเสาวรสมันกินยังไงกันละเนี่ย ต้องบอกตรงนี้เลยนะคะว่าส่วนมากแล้วคนจะนิยมนำมาคั้นเป็นน้ำทานกัน รสชาติสุดแสนเปรี้ยวจี๊ด
อร่อย สดชื่น และคงคุณประโยชน์ สำหรับท่านที่รักสุขภาพนั้นได้รับครบทุกคุณสมบัติจริงๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าเจ้าเสาวรสนี้มีอะไรน่าสนใจอีก ตามมาดูกันเลย

เสาวรส สรรพคุณที่ทุกคนคู่ควร

ประโยชน์ของเสาวรส มีนับไม่ถ้วนพอสมควร โดยเฉพาะใครที่อยากลดไขมันในเลือด บำรุงสายตา และผิวพรรณ
ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ทว่าสรรพคุณไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ แต่ยังมีประโยชน์ตามบรรทัดข้างล่างนี้อีกด้วย

1.อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ
สารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ ในขณะที่เสาวรส 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 97 แคลอรี่ เท่านั้น

2.ดีต่อการขับถ่าย
เพราะมีไฟเบอร์สูง จึงสามารถช่วยขจัดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ อีกทั้งยังช่วยขับสารพิษในลำไส้ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ได้ในตัว

3.ห่างไกลจากไข้หวัด
เพราะเสาวรส 100 กรัม พกวิตามินซีมาด้วยถึง 30 มิลลิกรัม การันตีได้ว่ากินเสาวรสเป็นประจำแล้วจะห่างไกลจากไข้หวัด แถมมีภูมิคุ้มกันโรคที่แข็งแรงแน่นอน

4.บำรุงสายตาได้ดีเยี่ยม
ไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยวิตามินเอเท่านั้น ทว่าเจ้าผลไม้ลูกเล็กนี้ยังพ่วงสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีน และคริบโทแซนทินเบต้า ซึ่งผ่านการศึกษามาแล้วว่า สารเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระควบคู่ไปกับวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี

5.บำรุงหัวใจและความดันโลหิต
เนื่องจากเสาวรสอุดมไปด้วยโพแทสเซียมถึง 384 มิลลิกรัม ต่อเสาวรส 100 กรัม ซึ่งโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อเซลล์ และของเหลวในร่างกายเรา รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจกับความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย

ถึงแม้ว่าเจ้าเสาวรสจะมีหน้าตาและกลิ่นที่ประหลาดไปสักหน่อย แต่คุณก็มั่นใจได้เลยค่ะว่าคุณภาพของเจ้าผลไม้นี้มีเหลือล้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบำรุงหัวใจเอย บำรุงสายตาเอย เห็นไหมคะว่าแค่ผลไม้ลูกเล็กๆ ยังน่าสนใจขนาดนี้ คราวหน้าเราจะกลับมากับเรื่องราวของผัก หรือผลไม้ชนิดใดอีก อย่าลืมติดตามกันด้วนนะคะ