กินอาหารหน้าร้อนต้องเลือกอย่างถูกวิธี
การกินอาหารใน หน้าร้อน มักเกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร หากจะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเช่นนี้ ควรกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงของหมักดอง หรืออาหารทะเล และตัวช่วยที่ดีอีกอย่างคือ ควรกินร้อนช้อนกลางจะดีที่สุด
ไม่ว่าฤดูไหนในเมืองไทยก็ดูร้อนไปซะหมด แต่จะร้อนที่สุดก็คงหนีไม่พ้นช่วงฤดูร้อนนี่ล่ะค่ะ และสิ่งที่ตามมากับ
อากาศร้อนๆ แบบนี้ ก็มักเป็นปัญหาที่มาจากการกินอาหาร เพราะเจ้าเชื้อโรคต่างๆ มักเจริญเติบโตได้ดี แล้วเราควรเลือกกินอาหารอย่างไรให้ห่างไกลจากอาการท้องเสีย ตามไปดูกันเลยค่ะ
โรคที่มากับหน้าร้อน
มักเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เพราะในฤดูร้อนเป็นอุณหภูมิที่เชื้อโรคชอบเป็นพิเศษ และเจริญเติบโตได้รวดเร็ว อาหารที่ใช้กะทิเป็นส่วนประกอบจะเสียเร็วกว่าปกติ นอกจากอาหารแล้วเครื่องดื่มก็สำคัญ โดยเฉพาะน้ำแข็ง ยิ่งร้อนมากเท่าไรยิ่งอยากกินน้ำแข็งมากขึ้น รู้ไหมคะว่าน้ำแข็งมักไม่ค่อยสะอาด อาการอีกอย่างที่ชอบเกิดในช่วงนี้คือ จะทำให้เราเบื่ออาหาร กินไม่ลง กินไม่ตรงเวลา ส่งผลถึงระบบทางเดินอาหารมากยิ่งขึ้น
กินอย่างไรให้ดี
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ช่วงอากาศร้อนร่างกายจะขับเหงื่อออกมาก ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ การได้รับน้ำอย่างเพียงพอ จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ สำหรับปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวันคือ 0.05 ลิตร ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ต้องการน้ำ 2.5 ลิตร (8-10 แก้ว) นอกจากน้ำเปล่าแล้ว ควรกินผลไม้ที่น้ำเพิ่มเติมด้วย เช่น แตงโม แตงกวา ฟัก เป็นต้น
2. เลี่ยงของหวาน
อากาศร้อนยิ่งทำให้อยากกินของเย็นๆ มากยิ่งขึ้น เช่น ไอศกรีมเพื่อดับร้อน ความจริงแล้วเราสามารถกินได้ แต่ไม่ควรกินเยอะเกิน เพราะทั้งหวานทั้งมัน อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งหากเป็นไอศกรีมกะทิอาจจะทำให้ปวดท้องได้เมื่อกินในปริมาณมาก แนะนำให้เลือกกินประเภท ซอร์เบท (Sorbet) หรือเปลี่ยนเป็นสมูทตี้ เบอร์รี่ หรือผลไม้อื่น จะให้ความสดชื่นมากยิ่งขึ้น และในส่วนของน้ำแข็งขอให้เน้นที่ความสะอาดด้วยค่ะ
3. เลือกกินเป็นพิเศษ
อาหารที่ต้องระวัง ได้แก่ อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก ที่เก็บในอุณหภูมิไม่เพียงพอ ส่งผลให้อาหารไม่สด เมื่อนำมาปิ้งย่างไม่สุก หรือ นำมายำใส่ผักสด เช่น ส้มตำ ปลาหมึกย่าง ยำหอย ยำทะเล ก็จะพลอยทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ นอกจากนี้ อาหารที่มีไก่และไข่เป็นส่วนประกอบ เช่น ข้าวมันไก่ น้ำสลัด หรือมายองเนส ซึ่งมีไข่แดงดิบเป็นส่วนประกอบ ในไก่และไข่ที่ไม่สุกอาจจะมีเชื้อแซลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วงได้เช่นกัน
4. งดอาหารหมักดอง
โดยเฉพาะอาหารหมักดองที่ขายตามท้องตลาด เพราะอากาศร้อนทำให้เชื้อโรคเติบโตได้ดี เช่น ยีสต์และเชื้อรา กะปิ แหนม ปลาร้า เมื่อรับประทานเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง อาเจียน นอกจากนี้ ถ้ามีเชื้อไวรัสก็อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ โดยเฉพาะในแหนม นอกจากจะมีโอกาสได้รับพยาธิตัวตืดแล้ว ยังอาจได้รับสารพิษที่มีชื่อว่า ไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
5. งดน้ำแข็ง
ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งทั้งแบบก้อน และแบบไสละเอียด ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่น่าเป็นห่วง เพราะกระบวนการผลิตมักทำกันแบบง่ายๆ ไม่ได้มาตรฐาน ตั้งแต่น้ำที่นำมาใช้ไปจนถึงเครื่องมือ รวมถึงขั้นตอนการจัดส่ง การบริโภคน้ำแข็งที่ไม่สะอาดอาจก่อให้เกิดโรคตามมา เช่น อุจจาระร่วง อหิวาตกโรค อาหารเป็นพิษ บิด ไข้รากสาดน้อย ไข้ไทฟอยด์ ฯลฯ
6. กินร้อนช้อนกลาง
การกินอาหารร้อน ปรุงสดใหม่ ทำให้ปลอดภัยต่อระบบทางเดินอาหารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการใช้ช้อนกลางตักอาหาร ยังสามารถป้องกันโรคที่ติดต่อผ่านทางน้ำลายลงในอาหาร ซึ่งมีถึง 8 โรคด้วยกัน คือ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ คางทูม โบลิโอ วัณโรค ไวรัสตับอักเสบบี และโรคซาร์ส ฉะนั้นช้อนกลางจึงถูกเปรียบเปรยเป็น “กำแพงกั้นเชื้อโรค” และยังช่วยลดการปนเปื้อนเชื้อโรคจากน้ำลายลงสู่อาหาร ทำให้อาหารบูดเสียได้ช้าลงอีกด้วย เรียกได้ว่าคนก็ปลอดภัย อาหารก็ปลอดเชื้อนั่นเองค่ะ
ความจริงแล้วพื้นฐานของการกินอาหาร ไม่ว่าฤดูไหนก็ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมไปถึงการออกกำลังกายเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดี และหากเพื่อนๆ ทำตามวิธีที่กล่าวมาข้างต้น รับรองว่าไม่ว่าหน้าร้อนนี้หรือหน้าร้อนไหน เพื่อนๆ จะไม่ท้องเสียอย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดีจาก Parpaikin ^^
เรียบเรียงโดย : โน้ตตัวที่สี่
โดเรมีฟา คือชื่อของฉัน ไม่ใช่นักดนตรีแต่คือนักเดินทาง ชอบมากที่จะได้ไปท่องโลก เห็นอะไรที่แตกต่างหรือวัฒนธรรมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ่งเป็นสถานที่ที่มีชาวต่างชาติจะทำให้รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะได้ใช้ทักษะภาษางูๆปลาๆ ก็สนุกดี ถ้าถามเรื่องกิน ชอบกินมากถึงมากที่สุด กินได้ตลอดเวลา แต่ดันไม่อ้วน ทั้งนี้อยากบอกทุกคนว่า ถ้าได้รู้จักเราแล้วไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน