ตำนานขนมไทยที่ถูกลืม
หากถามถึง ขนมไทย ในสมัยนี้ เชื่อว่าหลายคนคงนึกภาพถึง ทองหยิบ ทองหยอด หรือฝอยทองเป็นแน่แท้ วันนี้เราลองมาย้อนวันวานไปดูขนมไทยในสมัยก่อนกันบ้าง ว่าจะมีรูปร่างหน้าตาสวยน่ากิน ชวนน้ำลายหกมากแค่ไหน ซึ่งขนมบางชนิดที่เรานำมาฝากในวันนี้ก็หากินยากแล้วเสียด้วยสิ
ขนมหวานที่เราเห็นกันทั่วไปตามท้องตลาดไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ลูกชุบ ข้าวเหนียวสังขยา ล้วนเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย และเห็นกันจนชินตาไปเสียแล้ว แต่ถ้าจะให้พูดถึงขนมไทยในสมัยก่อนว่ามีอะไรบ้าง ก็คงจะคิดไม่ออกใช่ไหมล่ะคะว่าหน้าตามันเป็นแบบไหน วันนี้เราขอพาทุกท่านย้อนวันวานไปดูกันค่ะ ว่าหน้าตาของ ขนมไทย ในอดีตนั้นจะน่าทานขนาดไหน แถมในปัจจุบันนี้ยังหาทานได้ยากอีกด้วย
1. ขนมเสน่ห์จันทร์
ความหมายของขนมชนิดนี้ คือ ทำให้เป็นคนมีเสน่ห์ มีแต่คนนิยมรักใคร่ ขนมมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตในการจัดวางรูปทรง โดยรูปทรงขนมคล้ายกับผลของลูกจันทน์ ซึ่งในขนมเสน่ห์จันทร์นี้ก็มีส่วนผสมของผงลูกจันทน์อยู่ในแป้งขนมด้วย แต่ถ้าพูดในเรื่องของรสชาติแล้วนั้น จะหวานแต่ไม่มาก เมื่อได้ทานเข้าไปจะมีกลิ่นหอมละมุนคล้ายกลิ่นผลจันทน์ผสมกับกลิ่นอบควันเทียน และมีความนุ่มละมุนเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันจะหาทานได้ยาก ส่วนมากจะพบเจอขนมชนิดนี้ในงานมงคล
2. ขนมบุหลันดั้นเมฆ
ลักษณะของขนมชนิดนี้จะคล้ายขนมน้ำดอกไม้ เพียงแต่ขนมน้ำดอกไม้นั้นมีรอยบุ๋มลงไปตรงกลาง แต่ไม่มีส่วนตัวหน้า ส่วนขนมบุหลันดั้นเมฆเป็นขนมที่ชาววังคิดประดิษฐ์ขึ้นมาให้มีสีสัน และเลียนแบบเพลงไทย “บุหลันลอยเลื่อน” ซึ่งเป็น เพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 โดยตัวของขนมชนิดนี้มี 2 ส่วน คือส่วนตัวขนม ทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำดอกอัญชัน และน้ำตาลทราย หยอดลงบนถ้วยตะไล เมื่อนำไปนึ่งตรงกลางจะบุ๋มลงไป ส่วนตัวหน้าขนม ประกอบด้วย ไข่ กะทิ น้ำตาลมะพร้าว นำไปนึ่งต่อจนสุก เมื่อรับประทานจะให้ความรู้สึกถึงความหอมหวานของน้ำดอกอัญชันกับกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว แหมบรรยายซะเห็นภาพกันเลยทีเดียว
3. ขนมกลีบลำดวน
ขนมกลีบลำดวน เป็นขนมไทยที่นิยมใช้ในงานมงคล โดยคนโบราณมีความเชื่อว่า ดอกลำดวนเป็นดอกไม้ที่มีเสน่ห์ยามค่ำคืน จะส่งกลิ่นหอมรัญจวนใจ ช่วยทำให้มีชื่อเสียงขจรขจาย และยังสร้างความงดงามให้กับคู่ชีวิต ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง กล่าวคือ รูปทรงคล้ายกับกลีบของดอกลำดวน และรสชาติหวานหอมเทียนอบเป็นอย่างมาก จึงถูกปากคนทุกยุคสมัยนั่นเอง
4. ขนมสัมปันนี
ขนมสัมปันนี เป็นขนมไทยโบราณ จัดว่าเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ในพิธีแต่งงาน มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่รัชสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยได้รับอิทธิพลจากโปรตุเกส เรียกได้ว่ามาพร้อมๆ กับขนมตระกูลทองทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง… โดยขนมสัมปันนีจะมี 2 แบบ คือ แบบแห้ง และ แบบเปียก ซึ่งแบบแห้งจะใช้แป้งมันสำปะหลังนำไปคั่วให้สุกก่อนนำมาทำขนม ส่วนแบบเปียกจะใช้แป้งข้าวเจ้าที่ไม่ต้องคั่วมาทำเป็นตัวขนมค่ะ
5. ช่อม่วงอัญชัน
ขนมไทยโบราณที่มีความประณีตอ่อนช้อยแบบฉบับชาววัง ซึ่งถ้าพูดถึงขนมชนิดนี้กับเด็กๆ ในยุคนี้ก็คงไม่มีใครคุ้นชื่อกันสักเท่าไหร่ ที่ได้ชื่อว่าขนมช่อม่วงนั่นก็เพราะว่า ภายนอกของขนมนั้นเป็นแป้งสีม่วงที่ได้จากดอกอัญชัน ตกแต่งและจัดช่อสวยงามเหมือนกับดอกไม้ จึงเรียกว่าช่อม่วง ส่วนด้านในมีไส้ที่ทำจากหมู กุ้ง ปลา หรือไก่ ตามใจชอบ ซึ่งในตอนนี้หารับประทานได้ค่อนข้างยากแล้ว
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของขนมไทยในตำนานที่เราได้หยิบยกมาให้เพื่อนๆ ได้ทำความรู้จักกันค่ะ มีขนมชนิดไหนบ้างที่เคยพบเห็น หรือเคยรู้จักบ้างไหมเอ่ย? ถ้าหากอยากรู้จักเรื่องราวของขนมชนิดต่างๆ ให้เยอะกว่านี้ โปรดรอติดตามกันด้วยนะคะว่าพาไปกินจะพาทุกคนไปพบกับขนมชนิดไหนกันอีก สำหรับวันนี้ขอตัวไปทำขนมทานก่อนนะคะ บ๊ายบาย
เรียบเรียงโดย : เรด้าห์
เป็นเรด้าห์ที่คอยติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวชอบเสาะแสวงหา สถานที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ปัญหาสำคัญนั่นก็คือ !! ถึงจะเป็นนักเขียน เรื่องเที่ยวก็ทำให้น้ำหนักไม่ค่อยจะลดลงซะที