สูตรขนมเค้กสุดฟิน – ประเด็นหลัก
ใครชื่นชอบการกิน ขนม หรืออยากฝึกฝนฝีมือการทำละก็ วันนี้ Parpaikin มีสูตรขนมเค้ก พร้อมขั้นตอนการทำมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ
กว่าจะทำเค้กขึ้นมาได้สักปอนด์ ต้องผ่านกระบวนการทำหลายขั้นตอนไม่ใช่น้อย บางคนคิดว่ารอกินอย่างเดียวดีกว่า เพราะไม่ค่อยสันทัดเรื่องการเข้าครัวสักเท่าไร ซึ่งต่างจากผู้ที่มีความฝันอยากจะเปิดร้านเบเกอรี่เล็กๆ หรือชื่นชอบการทำขนมเป็นการส่วนตัว หากคุณคือผู้หลงใหลในการทำ ขนม และหมั่นหาสูตรต่างๆ มาฝึกฝนฝีมืออยู่เสมอ วันนี้ Parpaikin นำสูตรขนมเค้กแสนอร่อย พร้อมขั้นตอนการทำมาฝากกันค่ะ ว่าแต่…จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย
1.เค้กชิฟฟ่อนกาแฟ
ส่วนผสม
- แป้งเค้ก 110 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- กาแฟ 2 ซอง
- น้ำตาลทราย 30 กรัม (ส่วนที่ 1)
- น้ำตาลทราย 35 กรัม (ส่วนที่ 2)
- ไข่แดง 3 ฟอง
- ไข่ขาว 3 ฟอง
- น้ำเปล่า 50 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ
- เนยละลาย 50 มิลลิลิตร
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
- วิปปิ้งครีม 100 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
- พิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ (รองกระดาษ)
ชิฟฟ่อนเค้กเนื้อเนียนนุ่ม หอมกลิ่นกาแฟอ่อนๆ กินคู่กับชาร้อนยามบ่ายคงอิ่มไปจนถึงเย็นกันเลยทีเดียว ถือเป็นเมนูที่ไม่ยากเกินความสามารถมือใหม่หัดทำขนมเลยค่ะ ถ้าเตรียมวัตถุดิบพร้อมแล้ว เราไปลุยกันเลยดีกว่า
วิธีทำ
1.ก่อนอื่นให้ผสมแป้งเค้ก ผงฟู และผงกาแฟเข้าด้วยกัน ร่อนเตรียมไว้ จากนั้นแยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน ตีไข่แดงให้แตกแล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ลงผสม คนพอให้เข้ากัน
2.ใส่น้ำเปล่า กลิ่นวานิลลา และเนยละลายลงผสมต่อ จากนั้นเทส่วนผสมที่ร่อนไว้ลงผสม คนให้เข้ากัน อย่าคนนานนะคะ เพราะเดี๋ยวแป้งจะเหนียว เสร็จแล้วพักไว้ค่ะ
3.เตรียมภาชนะใส่ไข่ขาว ครีมออฟทาร์ทาร์ ตีให้เข้ากันเป็นฟองหยาบ ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำตาลทรายส่วนที่ 2 ลงไปตีผสมจนตั้งยอด เสร็จแล้วนำเมอแร็งก์ไข่ขาวที่ได้ตักใส่แป้งที่พักไว้เมื่อสักครู่ ตะล่อมให้ เมอแร็งก์ไข่ขาวเข้ากับแป้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน ทำแบบนี้จนเมอแร็งก์หมดค่ะ
3.เมื่อทั้งสองอย่างรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ตักใส่พิมพ์เค้กที่รองด้วยกระดาษไข จากนั้นหมุนพิมพ์ประมาณ 3-4 รอบ เพื่อไล่อากาศ หากใครไม่มีพิมพ์สามารถใช้ถาดแทนได้นะคะ (ไล่ฟองอากาศด้วยการเคาะ) เพื่อให้ได้หน้าเค้กที่สวยงาม
4.เมื่อไล่ฟองอากาศเป็นอันเรียบร้อย นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 นาที ใช้ไฟบนล่าง ปิดพัดลม เมื่อครบกำหนดเวลา นำออกมาพักไว้สักครู่ จากนั้นใช้มีดแซะด้านข้าง แล้วคว่ำขนมออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษออก วางพักไว้บนตะแกรง ตัดเค้กเป็นชิ้นตามต้องการค่ะ
5.ขั้นตอนสุดท้าย นำวิปปิ้งครีมตีกับไอซิ่งให้เข้ากันจนตั้งยอด นำมาทาบนชิ้นเค้กและประกบเข้ากัน เตรียมจัดใส่จาน
2.เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม
ส่วนผสม เมอแร็งก์ไข่ขาว
- ไข่ขาว 2 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ตัวเค้ก
- แป้งเค้ก85 กรัม
- ผงฟู½ ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา¼ ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา
- เกลือป่น¼ ช้อนชา
- ผงโกโก้30 กรัม
- น้ำตาลทราย85 กรัม
- นม70 กรัม
- นมข้นจืด20 กรัม
- น้ำมะนาว1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช60 กรัม
- ไข่แดง2 ฟอง
- ไข่ขาว2 ฟอง
- น้ำตาลทราย40 กรัม
- ครีมออฟทาร์ทาร์¼ ช้อนชา
ช็อกโกแลตหน้านิ่ม
- ผงวุ้น1 ช้อนชา
- นมสด200 กรัม
- นมข้นจืด200 กรัม
- น้ำตาลทราย150 กรัม
- ผงโกโก้60 กรัม
- แป้งข้าวโพด40 กรัม
- นมสด100 กรัม
- เนยสด150 กรัม
- เหล้ารัม2 ช้อนโต๊ะ
เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่ม ราดด้วยเนื้อช็อกโกแลตนิ่มละมุนลิ้น หอมกลิ่นเหล้ารัมอ่อนๆ เมื่อกินเข้าไปแล้วแทบจะละลายในปาก หากกินคู่กับผลไม้อย่างสตรอว์เบอร์รีก็ยิ่งฟินเข้าไปอีกค่ะ อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะ ว่าช็อกโกแลตหน้านิ่มนี้มีขั้นตอนการทำอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
วิธีทำ
1.วอร์มเตาไว้ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส และใช้พิมพ์เค้กขนาด 2 ปอนด์
2.ทำการร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา ผงโกโก้ เสร็จแล้วใส่น้ำตาลทราย เกลือ ลงในแป้งที่ร่อน นำพักไว้
3.นำไข่แดง กลิ่นวานิลลา นมสด นมข้นจืด น้ำมะนาว และน้ำมันพืชผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมแห้งที่พักไว้เมื่อครู่ลงไป คนให้เข้ากันจนเป็นแป้งเค้กแล้วพักไว้
4.ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์จนขึ้นฟอง ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย ตีให้ขึ้นฟูตั้งยอดอ่อนกลายเป็น เมอแร็งก์
5.ตักเมอแร็งก์ผสมกับแป้งเค้กที่พักไว้ ตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน ตักใส่พิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ นำเข้าเตาอบโดยใช้เวลาประมาน 45 นาที เสร็จแล้วแกะออกจากพิมพ์พักไว้
6.ทำหน้าช็อกโกแลตนิ่ม เริ่มจากผสมผงวุ้น ผงโกโก้ น้ำตาลทราย นมข้นจืด และนมสดให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟรอจนเดือด
7.ผสมแป้งข้าวโพดกับนมข้นจืดให้เข้ากัน คนดูจนแน่ใจว่าไม่เป็นเม็ด จัดการเทใส่หม้อ คนให้เข้ากันแล้วลดไฟลง คนต่อไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมทั้งหมดข้นเหนียวขึ้น ใส่เหล้ารัมและเนยตามลงไป คนให้ละลาย ปิดไฟยกลงจากเตา
8.ถึงเวลารวมร่างระหว่างตัวเค้กกับหน้าช็อกโกแลตแล้วค่ะ ทำการแบ่งครึ่งตัวเค้กที่เราได้พักไว้เมื่อสักครู่ออกเป็นส่วนบน และส่วนล่าง
9.นำเค้กส่วนล่างใส่ลงในพิมพ์เพื่อเป็นการบล็อกให้เค้กอยู่ทรงเวลาเราราดหน้าช็อกโกแลตนั่นเองค่ะ
10.นำหน้าช็อกโกแลตราดส่วนล่าง และนำส่วนบนประกบลงไป ราดช็อกโกแลตบนหน้าเค้กอีกครั้ง แล้วนำไปแช่ตู้เย็นสักครึ่งชั่วโมงเพื่อให้หน้าเค้กเซ็ตตัวก็เป็นอันเสร็จค่ะ
3.ช็อกโกแลตลาวา
วัตถุดิบ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วย
- ช็อกโกแลตแท่ง 120 กรัม
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
- เนยเค็ม 120 กรัม
- เนยขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- ไอศกรีมวนิลลา 1 ลูก
ที่เลือกเมนูนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าช็อกโกแลตนั้นเป็นของหวานที่นิยมมากในหมู่สาวๆ แถมยังมีสารตัวหนึ่งที่เรียกว่าสาร ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ช่วยให้มีอารมณ์แจ่มใส สนุกสนาน จึงไม่ค่อยน่าแปลกใจสักเท่าไร เวลาที่เรากินช็อกโกแลตเข้าไปแล้วจะมีอารมณ์ดีกว่าปกติ ยิ่งเป็นเค้กช็อกโกแลตลาวาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เอนจอยอีทติ้งกันเลยทีเดียว ใครอดใจไม่ไหว อยากสัมผัสแป้งที่นุ่มหยุ่น พร้อมไส้ลาวาช็อกโกแลตรสหวานปนขม ไปเข้าครัวกันเลยค่ะ
วิธีทำ
1.นำช็อกโกแลตแท่งไปตุ๋นจนละลาย เติมเนยเค็มตามลงไป คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ จากนั้นพักทิ้งไว้ให้เย็นค่ะ
2.ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลทราย ตีให้ละลายจนเข้ากันดีและขึ้นฟู ถัดมาค่อยๆ เติมแป้งลงไปผสมให้เข้ากัน ตามด้วยช็อกโกแลตตุ๋นทีละน้อย คนผสมไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
3.ทาเนยขาวให้ทั่วพิมพ์ และเคลือบด้านในด้วยน้ำตาลทราย หยอดส่วนผสมลงพิมพ์ ¾ พิมพ์
4.นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ครบกำหนดเวลาให้นำออก และคว่ำถ้วยพิมพ์ใส่จาน แกะพิมพ์ออก โรยหน้าด้วยไอซิ่ง ใช้มีดตัดตัวช็อกโกแลต เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลา และผลไม้เป็นอันเสร็จ
4.คัพเค้กวานิลลา
ส่วนผสม
• เนยเค็ม 160 กรัม
• น้ำตาลทราย 120 กรัม (ส่วนที่ 1)
• น้ำตาลทราย 30 กรัม (ส่วนที่ 2)
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• เเป้งเค้ก 150 กรัม
• ผงฟู 1½ ช้อนชา
• วานิลลาฝัก 1½ ฝัก
• วิปครีม
• เกล็ดน้ำตาล (สำหรับตกแต่ง)
มาต่อกันที่คัพเค้กวานิลลาเนื้อนุ่ม ด้านบนประดับด้วยวิปครีม พร้อมโรยเกล็ดน้ำตาลตกแต่งอย่างสวยงาม เหมาะสำหรับเป็นมื้อว่างของเด็กๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือจะทำกินเล่นกับเพื่อนยามบ่ายก็เก๋ใช่น้อย หากสาวๆ คนไหนชอบการทำขนมเป็นที่สุด มาเตรียมจดสูตรกันเลย
วิธีทำ
1.อันดับแรก วอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ระหว่างรอให้ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูรวมกัน และนำพักไว้
2.เเยกไข่ขาวออกจากไข่แดง ตีเนยให้พอเป็นเนื้อครีม ใส่น้ำตาลส่วนที่ 1 ลงไป ตีด้วยตะกร้อต่อจนเข้ากันดี ใส่ไข่แดงตามค่ะ ตีด้วยตะกร้ออีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ส่วนผสมที่เป็นเเป้งเเละผงฟูลงไป คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้
3.นำไข่ขาวที่เตรียมไว้มาตีผสมกับน้ำตาลส่วนที่ 2 จนตั้งยอด จากนั้นตักไข่ขาวที่เป็นเมอแร็งก์ใส่ลงในส่วนผสมที่พักไว้เมื่อสักครู่ ตะล่อมให้เข้ากัน ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมที่เป็นเมอแร็งก์หมด แล้วตักใส่พิมพ์กระดาษที่เตรียมไว้ค่ะ
4.เมื่อตักใส่พิมพ์เสร็จแล้วให้นำเข้าอบประมาณ 25-35 นาที บอกก่อนว่าระยะเวลานี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเตาอบนะคะ เพราะบางบ้านอาจใช้เตาขนาดไม่เท่ากัน ตัวขนมก็จะสุกในเวลาที่ไม่พร้อมกันนั่นเองค่ะ เมื่อสุกแล้วก็นำออกมาพักบนตะแกรงสักครู่
5.แต่งหน้าคัพเค้กด้วยวิปครีม และโรยหน้าด้วยเกล็ดน้ำตาลให้สวยงาม
5.เค้กฝอยทอง
ส่วนผสมที่ 1
- แป้งเค้ก 120 กรัม
- ผงฟู ½ ช้อนโต๊ะ
- นมผง 1½ ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
ส่วนผสมที่ 2
- นมสด 90 กรัม
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำมันรำข้าว 60 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมที่ 3
- ไข่ขาวเบอร์ 1 จำนวน 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
เนื้อเค้กเนียนนุ่ม แต่งหน้าด้วยฝอยทองสีเหลืองสง่า กลิ่นหอม รสหวาน กินคู่กับชากาแฟยามบ่ายเหมือนได้ผ่อนคลายความเครียดระหว่างวัน แค่เห็นรูปร่างหน้าตา หลายคนคงอาจคิดว่าต้องมีขั้นตอนการทำยุ่งยาก แต่ถ้าได้ลองทำตามวิธีทำที่เรานำมาฝาก รับรองว่าคุณจะเปลี่ยนความคิดไปเลยค่ะ
วิธีทำ
1.วอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ระหว่างนี้ ทาน้ำมันบริเวณก้นพิมพ์เค้ก วางทับด้วยกระดาษไข และทาน้ำมันบนกระดาษไขอีกครั้ง จากนั้นขยี้ฝอยทองให้เต็มกระดาษไข ระวังอย่าให้จับตัวกันเป็นก้อน จากนั้นนำมาวางไว้บนกระดาษไขที่ก้นพิมพ์เค้ก เกลี่ยฝอยทองให้ทั่วพิมพ์ ใช้ก้นแก้วกดให้แน่น โดยให้มีความหนาประมาณ ¼ นิ้ว และนำพักไว้
2.ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และนมผงรวมกัน ใส่น้ำตาลทรายกับเกลือตามลงไป แล้วพักไว้ จากนั้นเตรียมภาชนะใส่นมสด ไข่แดง น้ำมันรำข้าว และกลิ่นวานิลลาลงไปผสมให้เข้ากัน นำส่วนผสมทั้ง 2 ส่วนมาใส่รวมกัน แล้วคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันจนเนียน และนำพักไว้
3.ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ด้วยความเร็วจนเกิดฟองหยาบ ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนตั้งยอด เสร็จแล้วตักไข่ขาวที่ได้ผสมกับส่วนที่พักไว้เมื่อสักครู่ คนตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเมอแร็งก์ไข่ขาวหมด ใช้พายยางคนให้เข้ากันอีกทีค่ะ
4.เสร็จแล้วนำมาเทใส่พิมพ์เค้กที่มีฝอยทอง เกลี่ยหน้าให้เรียบ วางพิมพ์เค้กในถาดรองน้ำ โดยใส่น้ำในถาดรองตัวพิมพ์ประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อกันไม่ให้ฝอยทองไหม้ค่ะ
5.นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 50 นาที ใช้ไฟบนล่าง ในช่วงเวลา 10 นาทีสุดท้ายให้ปิดไฟบน แล้วอบต่อจนสุกค่ะ วิธีทดสอบว่าเค้กสุกหรือยัง สามารถทำได้โดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงกลางเนื้อเค้ก ถ้าดึงไม้ออกแล้วไม่มีแป้งเกาะติดมา ก็นำออกจากเตาได้ค่ะ
6.เมื่อนำตัวเค้กออกมาแล้วให้พักไว้บนตะแกรงสักครู่ จากนั้นคว่ำลงบนตะแกรงรองเพื่อเอาเค้กออกมา จัดใส่จานให้เรียบร้อย ตัดแบ่งให้สวยงาม
จบไปแล้วนะคะสำหรับสูตร และวิธีทำเค้กสุดฟิน เราเชื่อว่าหลายคนที่ชื่นชอบการทำ ขนม คงจะเกิดความรู้สึกรักพี่เสียดายน้อง เพราะไม่รู้ว่าจะทำเมนูไหนกินก่อนดี แต่ละสูตรที่เรานำมาฝากคงกระตุ้นต่อมให้แม่บ้านอยู่ไม่น้อย เอาเป็นว่าถ้าใครมีเวลาว่างในช่วงวันหยุด ก็ลองเลือกมาสักเมนู แล้วแสดงฝีมือกันได้เลยค่ะ ครั้งหน้าเราจะหาสูตรขนมแสนอร่อยมาฝากอีกนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะทุกคน
นามปากกา เรด้าห์
เป็นเรด้าห์ที่คอยติดตามเรื่องกินเรื่องเที่ยวชอบเสาะแสวงหา สถานที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ปัญหาสำคัญนั่นก็คือ !! ถึงจะเป็นนักเขียน เรื่องเที่ยวก็ทำให้น้ำหนักไม่ค่อยจะลดลงซะที