อาหารเพื่อสุขภาพ
เกร็ดความรู้ : เคล็ดลับการกินอาหารสุขภาพอย่างไร ให้สุขภาพดี ราคาประหยัด
ในช่วงปีสองปีมานี้เทรนด์สุขภาพมาแรงมากๆ หลายๆ คนหันมาออกกำลังกายและกินอาหารสุขภาพกันอย่างจริงจัง อาจด้วยเหตุผลต้องการลดน้ำหนักหรือเพื่อทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและห่างไกลจากโรคภัย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจสุขภาพเช่นกัน ลองอ่านเคล็ดลับการกิน อาหารสุขภาพ ด้านล่างนี้ รับรองชีวิตของคุณจะมีความสุขและสุขภาพดีขึ้นอีกเยอะเลย
เคล็ดลับกินอาหารสุขภาพให้สุขภาพดีและราคาประหยัด
1. เน้นกินผักผลไม้
การกินผักผลไม้ให้ได้วันละ 8-9 ส่วน จะทำให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุวิตามินอย่างครบถ้วน รวมไปถึงสารพฤกษเคมีซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านโรค แถมยังมีกากใยเยอะจึงช่วยให้การขับถ่ายเป็นระบบท้องไม่ท้องผูก โดยควรเลือกกินผักผลไม้ให้ครบทุกสี เช่น สีขาวจาก ดอกแค หัวไชเท้า แอปเปิล หอมหัวใหญ่ และกระเทียม สีแดงจาก แตงโม มะเขือเทศ และสตอรว์เบอร์รี สีม่วงจาก อัญชัญ กะหล่ำปลีม่วง มะเขือม่วง และบลูเบอร์รี สีเหลือง-ส้ม จากข้าวโพด แครอท ฟักทอง และมะละกอ สีเขียวจาก คะน้า ตำลึง บรอกโคลี และบวบ เป็นต้น
2. เลือกกินคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดขาว เน้นธัญพืช
คาร์โบไฮเดรตมีความสำคัญ เพราะเป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย แต่ควรเลือกที่ไม่ขัดขาว อย่าง ข้าวไรท์เบอร์รี ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต พาสต้าโฮลวีท โฮลเกรน เพราะแป้งขาว จะมีกากใยอยู่น้อยมาก ร่างกายจึงออกแรงน้อยมากในการย่อยและดูดซึม ทำให้ระดับอินซูลินพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เพื่อขจัดปริมาณน้ำตาลจำนวนมากที่เข้ามา ระดับน้ำตาลในเลือด และระดับพลังงานจึงไม่คงที่ แต่ถ้าเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีกากใยอยู่ก็จะค่อยๆ ให้พลังงานอย่างช้าๆ การหลั่งอินซูลินคงที่ ระดับน้ำตาลในเลือด และระดับพลังงานก็จะคงที่ด้วยเช่นกัน
3. พยายามกินแต่เนื้อขาว เลี่ยงเนื้อแดง
มีงานวิจัยหลายชิ้นบ่งบอกว่า การกินเนื้อแดง อย่าง เนื้อหมู เนื้อวัว ในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ จากการนำเนื้อแดงไปปรุงอาหารในอุณหภูมิที่ร้อนจัด และหากกินผลิตภัณฑ์หมูเนื้อแดงแปรรูป เช่น ไส้กรอก ฮอตด็อก เบคอน ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจมากขึ้น แต่หากรักสุขภาพกินเนื้อขาวอย่าง เนื้อไก่ เนื้อปลา จะสามารถช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งตับได้ ดังนั้น ทางที่ดีควรกินเนื้อแดงในปริมาณที่เหมาะสม คือ ไม่เกินวันละ 50-100 กรัม กินเนื้อปลา 2-3 ตัวต่อสัปดาห์ ส่วนเนื้อไก่ไม่ติดมัน กินได้วันละ 1-2 มื้อ
4. ลดการกินน้ำตาล
รู้หรือไม่ว่าน้ำตาล คือ ความหวานซ่อนความร้ายตัวจริง เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งยังเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี ทำให้อารมณ์แปรปรวน รวมถึงผิวพรรณเหี่ยวย่นก่อนวัยอีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อเราติดรสหวาน สมองก็จะหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า โดพามีน (Dopamine) ออกมา ทำให้เราขาดหวานไม่ได้ เหมือนกับติดยา ดังนั้นค่อยๆ ลดความหวานลงทีละน้อยจนชินกับอาหารที่ไม่มีรสหวานไปเอง แบบนี้ก็จะดีต่อสุขภาพแน่นอน
5. ลดเกลือและเครื่องปรุงรส
เพราะในเกลือมีโซเดียมมากเกินไปจึงทำให้ โรคไต และความดันโลหิตสูงจะมาเยือนเราได้ง่ายๆ ทางที่ดีพยายามลดเค็มลงจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น พริกน้ำปลา ซอสพริก ซอสหอยนางรม ซอสมะเขือเทศ ผงปรุงรส อาหารแช่แข็ง และอาหารสำเร็จรูปด้วย
6. กินมื้อเช้า
การไม่กินมื้อเช้าเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เพราะแค่ตื่นขึ้นมาเตรียมตัวเดินทางไปทำงาน เข้างานทำงานเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงเวลาอาหารเที่ยงแล้ว ซึ่งหนุ่มสาวทำงานทั้งหลายก็มักเลือกที่จะงดมื้อนี้ เพราะสะดวกสบายแถมยังคิดว่าได้ลดความอ้วนอีกต่างหาก แต่ความจริงนี่คือ สาเหตุที่ทำให้สมองไม่แล่น ไม่มีความกระตือรือร้น และยังทำให้อ้วนขึ้นได้อีกต่างหาก เนื่องจากระบบเผาผลาญเริ่มต้นช้าลง ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง จึงทำให้เกิดอาการหิว และเมื่อได้กินมื้อต่อไปก็จะกินแบบไม่ยั้ง สุดท้ายก็จบที่ความอ้วนอยู่ดี
7. ดื่มน้ำมาก ๆ
เพราะกล้ามเนื้อคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 75% หากสูญเสียน้ำไปสักเพียง 2-3% ก็ทำให้ความแข็งแกร่งตกลงไปถึง 10% แล้ว รวมทั้งทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทางที่ดีควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย และรักษาระดับความเข้มข้นของเลือด รับรองได้ว่าจะสดชื่น และมีพลังไปตลอดทั้งวัน
การกิน อาหารสุขภาพ ให้มีสุขภาพดีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ให้ความใส่ใจเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และหากเป็นไปได้ควรกินผัก ผลไม้ ข้าวหรือธัญพืชไม่ขัดสีในท้องถิ่นหรือตามฤดูกาลก็จะทำให้ซื้อหาได้ในราคาประหยัดอีกด้วย