อาหารสุขภาพ

สาระน่ารู้ : กินส้มตำ ไม่ใช่เเค่ถูกเเต่ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด

ส้มตำ เป็นอาหารยอดฮิต รสชาติดี ถูกปากคนไทย ไม่ว่าจะไปพื้นที่ไหนก็ได้กินๆ คนชอบเผ็ดใส่พริกมากๆ แซ่บถึงใจ คนชอบเผ็ดน้อยใส่พริกนิดหน่อยก็อร่อยไป เมื่อกินกับเครื่องเคียงผักสารพัด เสริมไก่ย่างไปหน่อย ข้าวเหนียวสักกระติ๊บ อิ่มสบายท้อง แต่รู้ไหม ส้มตำ ไม่ได้มีดีแค่อร่อยและราคาถูก หากยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีไขมันและให้พลังงานต่ำ แถมมีใยอาหารอีกเพียบ ส่วนรายละเอียด อ. แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการบำบัดและผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ได้บอกเล่าไว้อย่างน่าสนใจนั่นคือ

‘ส้มตำ’ ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด

ใน ส้มตำ หนึ่งจานจะมีส่วนผสมของพืชผัก สมุนไพร ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระเทียม มะละกอ มะเขือเทศ พริกขี้หนู ถั่วฝักยาว ถั่วลิสงคั่ว น้ำปลา มะนาว ไหนจะผักเครื่องเคียงอย่างผักบุ้ง และผักอื่นๆ ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีสรรพคุณทางยา ช่วยสร้างภูมิต้านทาน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัยอีกด้วย แต่ทั้งนี้เพื่อให้ได้โภชนาการทางอาหารครบควรกินอาหารอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยอย่าง ขนมจีน ข้าวเหนียว หมูย่าง ไก่ย่าง ลาบ หรือน้ำตก หากเป็นแบบนี้จะมีสารอาหารครบถ้วน ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามิน เลยทีเดียว

นอกจากการกินส้มตำกับอาหารชนิดอื่นเพื่อให้สารอาหารหลากหลายแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกก็คือ ส้มตำเป็นอาหารสด และไม่ผ่านความร้อน (Low Food) เรื่องของความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ซื้อควรเลือกร้านที่สะอาด แม่ค้าใส่ใจดูแลทั้งตัวเอง และวัสดุที่นำมาปรุงให้พร้อมเสมอ ทำเสร็จล้างทำความสะอาด มีฝาปิดมิดชิดไม่ปล่อยให้แมลงวันตอม เครื่องปรุงต่างๆ ต้องสดใหม่ ไม่มีเชื้อรา โดยเฉพาะถั่วลิสงและกุ้งแห้ง ไม่เช่นนั้นอาจเป็นที่มาของ ‘อะฟลาทอกซิน’ ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีพิษก่อให้เกิดมะเร็งจากเชื้อราบางชนิด สำหรับใครที่ชอบกินปลาร้าและปูเค็ม หากเป็นไปได้ควรเลือกแบบสุกดีกว่า

จะกินส้มตำบ่อยๆ ได้ไหม?

ถึงส้มตำจะเป็นอาหารสุดโปรดของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสาวๆ ที่กินได้บ่อยๆ แต่ส้มตำไม่ใช่อาหารที่ดีที่สุดขนาดกินได้ทุกวันแบบไม่เบื่อ ทางที่ดีควรสลับสับเปลี่ยนกับอาหารประเภทอื่นๆ บ้าง กินสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และหากมีปูเค็ม หรือปลาร้า ก็ลดลงมาเหลืออาทิตย์ละครั้ง หากมากกว่านั้นคงต้องทำให้ปูเค็มและปลาร้าสุกก่อน

สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนกินส้มตำทุกครั้ง ก็คือ ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง หากมีอาหารอื่น เช่น ข้าวเหนียว ไก่ย่าง หรือน้ำตกให้ตักกินสิ่งเหล่านี้ก่อน เนื่องจากในมะละกอจะมียาง ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำให้เนื้อสัตว์เปื่อยนุ่มได้ หากกินขณะท้องว่างจะทำให้ปวดท้อง เพราะยางมะละกอจะไปส่งผลต่อกระบวนการย่อยกัดเยื่อบุกระเพาะอาหาร ที่สำคัญอย่าลืมเคี้ยวให้ละเอียด เนื่องจากมะละกอย่อยยาก

สิ่งที่ อ.แววตา เป็นห่วงอีกเรื่อง ก็คือ ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่าง โรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน หรือโรคไต สามารถกินได้ แต่ไม่ควรบ่อยนัก เนื่องจากส้มตำมีโซเดียมสูง และถ้าจะให้ดีปรุงรสด้วยน้ำตาล หรือใส่ในปริมาณน้อย ไม่ควรปรุงรสให้เค็ม และห้ามใส่ผงชูรสเด็ดขาด เพราะเป็นเครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูงมากนั่นเอง

‘ส้มตำถาด อร่อยและมีสารอาหารครบ’

ในปัจจุบันมีเมนูส้มตำยอดฮิตเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเมนู นั่นคือ “ส้มตำถาด” ที่นับว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายมาก เพราะในหนึ่งถาดจะมีส่วนประกอบที่เป็นเครื่องเคียงทำให้ได้สารอาหารครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนจากไข่ หมูหรือปลาทอดกรอบ คาร์โบไฮเดรตจาก ขนมจีนหรือเส้นหมี่ วิตามิน เกลือแร่จาก ผักสดอย่าง ผักบุ้งถั่วงอก หรือผักต้มชนิดต่างๆ หากมีกระบวนการทำที่สะอาดปลอดภัยแบบนี้ก็น่ากินใช่น้อย ก็มีแต่ที่ต้องระวัง คือ ถาดที่มีสีสัน ลวดลายต่างๆ เพราะอาจมีอันตรายจากสารตะกั่ว แคดเมียม ที่เป็นโลหะหนัก เมื่อโดนกรดรสเปรี้ยวจาก มะนาว ส้ม มะขาม ที่มีอยู่ในส้มตำ ก็จะกัดกร่อนถาดทำให้เกิดสนิม และเข้าไปเจือปนในอาหาร พอเกิดการสะสมในระยะยาวจะมีผลกับตับและไต ทางที่ดีจึงควรเลือกถาดใหม่ๆ ถาดสแตนเลส หรือใช้จานเซรามิก จานกระเบื้องหรือจานแก้ววางลงบนถาดอีกที แบบนี้ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

ส้มตำ อาหารเมนูพื้นๆ หากินง่าย ราคาถูก ซึ่งหากเราใส่ใจการกินเพิ่มขึ้นอีกสักนิด เพียงแค่นี้ ก็จะสามารถกินส้มตำ ให้อร่อยและได้ประโยชน์หลายอย่างตามที่ต้องการ